เวนิสเชื้อเชิญนักท่องเที่ยวมาทัวร์อิตาลี เที่ยวเมืองเวนิสอยากให้มาเดินเล่นอย่างเพลิดเพลิน พร้อมสัมผัสเสน่ห์ของเมืองอันสวยงามไม่เหมือนใคร
โบสถ์ซานตามาเรีย เดลลา ซาลูเต ผลงานการออกแบบของลอนแกนา (Longhena) นี้ เป็นโบสถ์สไตล์บาโรกที่ตั้งอยู่บริเวณปากแกรนด์คาแนลทางด้านทิศใต้ ก่อนที่จะออกสู่ทะเลสาบ ถูกสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ.1631-1681 เพื่อเป็นการขอบคุณพระเจ้าหลังจากที่ชาวเวนิสผ่านพ้นวิกฤตการณ์จากโรคระบาดครั้งใหญ่ในระหว่างปี ค.ศ.1630-1631 ภายในโบสถ์งดงามด้วยภาพเขียนและปะติมากรรมล้ำค่าหลายชิ้น รวมทั้งรูปสลัก Queen of Heaven expelling the Plague ผลงานชิ้นเอกของศิลปิน Josse de Corte
พระราชวังดอจ พระราชวังสไตล์โกธิคของดอจ ดยุคผู้ครองเมืองเวนิส สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 9 แต่เกิดเพลิงไหม้และได้รับการบูรณะและก่อสร้างเพิ่มเติมในระหว่างศตวรรษที่ 14 และ 15 ภายในพระราชวังงดงามด้วยการประดับทองคำและภาพจิตรกรรมมากมายโดยเฉพาะภาพเขียนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
นอกจากนี้จะได้ดื่มด่ำกับความงดงามของศิลปะแล้ว วังแห่งนี้ยังมีคุกขังนักโทษอันน่าสะพรึงขวัญอยู่ชั้นใต้ดิน ซึ่งถูกเชื่อมด้วยทางเดินแคบๆ ไปยังสะพานข้ามคลองสู่แดนคุมขัง สะพานแห่งนี้จึงมีชื่อเรียกว่า สะพานถอนหายใจ (Ponte dei Sospiri หรือ Bridge of Sighs) ตามอาการของนักโทษที่เดินข้ามสะพานกิอนที่จะหมดอิสรภาพ
สะพานรีอัลโตเป็นหนึ่งในสะพานข้ามแกรนด์คาแนลที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะมาถ่ายรูปมากที่สุด (อีกสองสพพานมีชื่อเสียง คือ Accademia Bridge และ Scalzi Bridge) ด้วยเหตุที่สะพานแห่งนี้มีความเก่าแก่ที่สุด สร้างขึ้นครั้งแรกด้วยไม้ในปี ค.ศ.1181 แต่เกิดการผุพังขึ้นเรื่อยๆกระทั่งในช่วงปี ค.ศ.1588-1591 ได้มีการรื้อและสร้างใหม่ด้วยหินอย่างแข็งแรงดังที่เห็นในปัจจุบัน สะพานรีอัลโตเชื่อมระหว่างเกาะ San macro กับเกาะ San polo โดยบริเวณตีนสะพานทั้งสองฝั่งคลาดคล่ำไปด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ ตลาดสด และร้านรวงขายสินค้านานาชนิด